การดูแลมารดาหลังคลอด ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย หรือ เรียกว่า “การอยู่ไฟ” เมื่อหลังจากการคลอดบุตร จะทำให้ธาตุในร่างกาย ทั้ง 4 (ดิน น้ำ ลม ไฟ) เกิดการเสียสมดุล โดยเฉพาะธาตุไฟ จะส่งผลให้มารดา ไม่สบายตัว ปวดเมื่อยตามร่างกาย อ่อนเพลีย หรืออาจมีอาการคัดตึงเต้านมร่วมด้วย ซึ่งการดูแลมารดาหลังคลอดเป็นการฟื้นฟูสุขภาพมารดาจะช่วยให้ ร่างกายอบอุ่น ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ขับน้ำคาวปลา ลดอาการคัดตึงเต้านม ทำให้ธาตุทั้ง 4 ในร่างกายกลับมาอยู่ในภาวะสมดุล
สามารถทำดูแลมารดาหลังคลอดได้เมื่อใด
1.มารดาคลอดธรรมชาติ (คลอดเอง) หลังจากคลอด 7-10 วัน ถ้าไม่มีอาการอ่อนเพลียจากการคลอดบุตร และแผลบริเวณช่องคลอดแห้งสนิทดีแล้ว สามารถถทำได้เลย
2.มาราดาผ่าตัดคลอด สามารถทำได้หลังจากการผ่าคลอดแล้ว 30-45 วัน หรือ จนกว่าแผลผ่าตัดจะหายและแห้งสนิทดี
การอยู่ไฟจะได้ผลดี ต้องทำไม่เกิน 3 เดือนหลังจากคลอดบุตร การทำหลังคลอดนิยมทำ 5-10 วันต่อเนื่อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของมารดาแต่ละบุคคลด้วย
ประโยชน์ของการดูแลมารดาหลังคลอด
1.ช่วยทำให้มดลูกเข้าอู่
2.ช่วยขับน้ำคาวปลา
3.ช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
4.ช่วยลดอาการคัดตึงเต้านม
5.ช่วยกระตุ้นการไหวเวียนเลือด ลดอาการอ่อนเพลีย
6.ช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าท้องกระชับ หน้าท้องยุบ
ขั้นตอนการดูแลมารดาหลังคลอด
1.นวดไทย
มารดาหลังคลอดมักมีอาการ ปวดเมื่อยตามร่างกาย อาจเนื่องจากการคลอดบุตรและการดูแลบุตร ส่วนมากจะมีอาการปวด คอ บ่า หลัง การนวดจะช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการคัดดึงเต้านม
2.การประคบสมุนไพร
การประคบจะใช้ความร้อนที่พอดี ไม่ร้อนมากเกินไป และไม่ประคบด้วยแรงหนักเกินไป การประคบจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น ช่วยลดอาการบวม ลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเมี่อยตามร่างกาย ลดอาการคัดตึงเต้านม
3.การทับหม้อเกลือ
เป็นการใช้เกลือเม็ดใส่ในหม้อดินเผาตั้งไปให้ประทุร้อน แล้ววางบนสมุนไพร และใบพลับพลึง แล้วห่อด้วยผ้าจากนั้นนำหม้อเกลือนาบบริเวณหน้าท้อง ต้นขา หลังช่วงล่าง จะช่วยให้มดลูกเข้าอู่ ช่วยขับน้ำคาวปลา ช่วยกระตุ้นการไหวเวียนเหลือด ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องกระชับ หน้าท้องยุบ และมีงานวิจัยแล้วว่าการทับหม้อเกลือ ช่วยคลายกล้ามเนื้อ และลดอาการปวดกล้ามเนื้อได้
4.การอบสมุนไพร
เป็นการเข้ากระโจม เพื่อให้ไอน้ำสัมผัสตัวให้มากที่สุด ตัวยาสมุนไพรประกอบด้วยตัวยาหลายชนิด ความร้อนจากไอน้ำจะช่วยกระตุ้นไหลเวียนเลือด ช่วยขับน้ำคาวปลา ลดอาการปวดกล้ามเนื้อและกลิ่นสมุนไพรช่วยเพิ่มความสดชื่น หายใจโล่ง สบายตัวมากยิ่งขึ้น
5.การนั่งถ่าน
เป็นวิธีการรมบริเวณฝีแผลเย็บของมารดาหลังคลอด โดยการโรยผงยาสมุนไพพรลงบนถ่านที่ติดไฟที่อยู่ในหม้อทะนน แล้วปิดปากหม้อด้วยกะลาตาเดียว นำไปวางด้านใต้ที่นั่ง ที่เจาะตรงกลาง ความร้อนและควันสมุนไพรจะพุ่งขึ้นมาสัมผัสบริเวณแผลฝีเย็บ การนั่งถ่านนช่วยบรรเทาอาการอักเสบ ทำให้แผลแห้งไม่อับชื่น
6.การพันผ้าหน้าท้อง
เป็นการใช้ผ้าพันรัดหน้าท้องของหญิงหลังคลอด การพันผ้าหน้าท้อง จะทำให้หน้าท้องกระชับ ช่วยพยุงหน้าท้อง และช่วยให้มดลูกเข้าอู่
7.การพอกผิว
คือ การนำสมุนไพรมาพอกผิว จะใช้ขมิ้นชัน ดินสอพอง น้ำผึ้ง น้ำเปล่า ผสมกันนำมาพอกผิวบริเวณรอยดำ ที่เกิดจากขณะตั้งครรภ์การพอกผิวจะช่วยทำให้ผิวพรรณผุดผ่อง
ข้อห้ามที่มารดาไม่สามารถทำหลังคลอดได้
1.มีไข้เกิน 37.5 องศา
2.แผลผ่าตัด ยังไม่แห้งสนิทดี
3.มีอาการอ่อนเพลีย
4.รับประทานอาหารอิ่มใหม่ๆ
5.แพทย์แจ้งว่า มดลูกลอยตัว มดลูกยังไม่เข้าอู่
นอกจากการดูแลมารดาหลังคลอดตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว มารดาควรจะ รับประทานอาหารที่มีรสร้อน เพื่อช่วยบำรุงธาตุไฟ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด เช่น ขิง พริกไทย กะเพรา ขมิ้นชัน เป็นต้น รับประทานอาหารบำรุงน้ำนม เช่น แกงเลียงหัวปลี ไก่ผัดขิง หลีกเลี่ยงอาหารรสเย็น เช่น ฟัก แตงโม น้ำแข็ง เพราะอาหารรสเย็นจะไปลดธาตุไฟในร่างกาย ควรดื่มน้ำอุ่น 2-3 ลิตร/วัน และที่สำคัญพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายกลับมาอยู่ในภาวะสมดุล